กุมารทอง(ตุ๊กตาทอง)...สุดยอดเครื่องรางของขลัง โชคลาภ ค้าขาย เมตตามหานิยม!!
...หากจะพูดถึงของขลังสำหรับค้าขาย โชคลาภ ก็คงจะไม่มีสิ่งใดดีเท่ากุมารทองกันแล้ว กุมารทอง ถือว่าเป็นของขลังอาถรรพ์ที่มีพลังด้านนี้มาก
กุมารทองเป็นเครื่องรางของขลังที่มีพลังอำนาจมากและเป็นสิ่งที่มีจิตใจ เหมือนคนเรา แต่เพียงเรามองไม่เห็นเท่านั้น มีความขลังศักสิทธิเป็นเลิศไม่แพ้สิ่งใดๆเป็นที่นิยมชมชอบกันมาตั้งแต่สมัย กรุงศรีอยุธยา มีประวัติในเรื่อง "ขุนช้างขุนแผน" แต่ปัจจุปันก็ยังเป็นที่ชื่นชอบและเป็นที่นิยมชมชอบ สำหรับพ่อค้าแม่ค้า นักศึกษา และคนทำงานทั้งหลายหลายท่านที่เคยบูชาของขลังค้าขายอื่นๆ ทั้งนางกวัก สาริกา ชูชก หรืออื่นๆ ก็ต้องเปลื่ยนมาบูชากุมารทองกันแทน เนื่องจากพลังอาถรรพ์แห่งกุมารทองนั้นเอง

...หลายท่านที่เช่าบูชากุมารทอง เมื่อรับกุมารทองไปแล้ว เข้าถึงบ้านต้องบอกศาลเจ้า ศาลพระภูมิ เจ้าที่เจ้าทาง เทพและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่มีอยู่ในบ้าน ให้บอกกับกุมารทอง บอกเล่าคนในบ้านมีกี่คนใครบ้างแนะนำให้กุมารทองทองรู้จัก ใครไปมาค้างคืนต้องบอกด้วย เช้าต้องจัดอาหารถวายให้อย่างน้อยวันละ 1 เวลา คือ เวลาเช้า ก่อนที่คนในบ้านจะรับประทาน เมื่อหุงหาอาหารทำกับข้าวเสร็จแล้วจัดแบ่งไว้ให้ เมื่อถวายอาหารต้องเชิญ(เรียกชื่อกุมารทอง)ให้รับอาหาร ถ้ามีบุตรต้องเรียกกุมารทองว่าพี่ การจัดตั้งที่สำหรับกุมารทองอย่าหันหน้าไปทางทิศตะวันตก หรือปลายเท้าที่นอน หรือใต้บันไดบ้านที่เป็นบ้านสองชั้นและอย่าไว้รวมกับที่บูชา พระพุทธรูป ศาลเจ้า ต้องให้อยู่ต่ำกว่าที่พระพุทธรูป

...ผู้ที่มีความต้องการอยากเลี้ยงกุมารทอง เพื่อการค้าขาย เสริมดวงโชคลาภ คุ้มครองบ้านเรือน ไร่ นา สวน หรือใช้ช่วยเหลือกิจการเจริญรุ่งเรือง ต้องหมั่นบูชา บอกเล่าตามความปรารถนา เมื่อเห็นว่าเป็นผลสำเร็จ หรือร่ำรวยขึ้น ก็จงซื้อสิ่งของเครื่องประดับกาย เช่น สร้อยคอ เพชร พลอย และเครื่องเล่นต่างๆ หรือสิ่งที่เราจะบนบานให้เขาจะพอใจมาก เวลาท่องคาถาก่อนนอน ก่อนเปิดร้าน ให้หมั่นบอกเล่าความปรารถนาให้กุมารทองฟังเสมอๆ จะเกิดลาภ ค้าขายดีให้เห็นกุมารทองเมื่อเลี้ยงบูชาแล้วจะบันดาลสิ่งต่างๆให้ผู้เลี้ยงบูชาได้สมปรารถนา และมีคุณด้านเมตตา-มหานิยม -ค้าขายร่ำรวย-ป้องกันภัยจากสิ่งไม่ดีต่างๆ-และยังบันดาลโชคลาภให้แก่ผู้ เลี้ยงบูชากุมารทอง ได้อย่างไม่ขาดสาย จนเป็นที่พอใจสำหรับผู้เลี้ยงบูชากุมารทอง

อิทธิคุณของกุมารทอง
...คุณวิเศษต่างๆของกุมารทองนี้ อาจารย์เจ้าของตำราถึงกับสรรเสริญไว้ว่า ใครเลี้ยงไว้จะยิ่งให้คุณวิเศษยิ่งแก่ผู้สักการบูชาครบทุกด้าน โดยเฉพาะทางโชคลาภ เมตตาค้าขาย ใครมีไว้ครอบครองและหมั่นปฏิบัติบูชาให้ดี ผู้นั้นเหมือนได้พบขุมทอง ต่อไปในภายหน้าจะคอยดลบันดาลให้พบแต่โชคลาภโชคดี บังเกิดความร่ำรวยเป็นเศรษฐีในที่สุด

การเลือกเลี้ยงกุมารทองที่ดี จะเป็นผลดีให้ชีวิตรุ่งเรือง บางคนเลี้ยงบูชาแค่องค์เดียวก็ทำให้การค้า การขายดีขึ้นอย่างไม่รู้ตัวกันเลยที่เดียว
...กุมารทอง มี2ขนาด ขนาดบูชาสำหรับคนทำงานที่บ้าน และขนาดพกพาสำหรับคนเดินทาง ถ้ามีที่อยู่ก็แนะนำขนาดบูชา

กุมารทองที่เลี้ยงแล้วได้ผลดีเยี่ยม และนิยมกันมากตอนนี้แนะนำของ วัดสามง่าม...
...กุมารทองเทพ หรือกึ่งเทพ หลวงพ่อแย้ม วัดสามง่าม จ.นครปฐม แนะนำรุ่นขนาดตั้งบูชา พิมพ์เล็ก-กลาง-พิมพ์ใหญ่ ที่สร้างก่อนปี 2553 เหตุเพราะรุ่นเก่าๆมีการจัดสร้างตามตำรา มวลสารการจัดสร้างช่วงนั้นเข็มขลังดีมาก ปลุกเสกเรียกจิต และทำการเจิมเรียกจิตโดยหลวงปู่แย้มโดยตรง จึงทำให้กุมารทองมีตัวตนจริง เลี้ยงแล้วได้ผลดีจริง

...มวลสารตามตำราของวัดสามง่าม ก็เน้นการเลือกหามวลสารที่มีความอาถรรณ์ อาทิเช่น ดิน 7 ป่าช้า , ดิน 7 โปร่ง , ดิน 7 จอมปลวก , ดิน 7 ท่าน้ำ , ดิน 7 กลางตลาด , ดิน 7 กลางใจเมือง , ดิน 7 ถ้ำ , เส้นผม , ขี้เถ้ากระดูก 7 เมรุ ฯลฯประสบการณ์ เรื่องโชคลาภ คุ้มครอง ค้าขาย เมตตา หนุนดวงดีนักแล

(เคล็ดบูชากุมารทอง)
...ตัวผู้บูชาหมั่นสร้างบุญ สร้างกุศล สวดมนต์ไหว้พระ ทำบุญตักบาตร หมั่นร่วมบุญต่างๆ ทำใจไม่ให้มัวหมอง โดยการฝึกสมาธิวันละ 15 นาที หรือ อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง แล้วอุทิศบุญกุศลไปให้ทุกครั้ง แล้วการเลี้ยงกุมารทองของท่านจะขอได้ดังใจสมปรารถนา รับรู้ได้ถึงจิตกุมารทองได้ดี
...หมั่นให้น้ำแดง,สร้อยทอง ,ของเล่น ,ขนมไทย เช่นทองหยิบ ทองหยอด กล้วยน้ำว้า สาลี่ แอปเปิ้ล ส้ม ผลไม้ต่างๆ ,น้ำเปล่า (ห้ามขาดบนหิ้ง) ทุกๆวันพระให้เรานำข้าวปากหม้อ ไข่ต้ม อาหาร ขนม ผลไม้ ดอกไม้ มาบูชาเค้า แล้วบอกกล่าวว่าให้ช่วยกันหาเงินหาทอง เฝ้าบ้านดูแลคนในบ้าน ขาดเหลืออะไรบอก อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ควรจำไว้สำหรับการเลี้ยง(บูชา) กุมารทอง คุณต้องระลึกไว้เสมอว่ากุมารนั้นเสมือนลูก

...ถ้าถามว่ารุ่นไหนควรเช่าบูชาและมีประสบการณ์มาก ก็คือรุ่นตั้งแต่ปี 53 ถอยหลังลงไป อาทิ รุ่นฐาน 9 รุ่นช้อปเปอร์ รุ่นจุกหน้า รุ่นย้อนยุค รวมไปถึงรุ่นพัดยศ รุ่นเหล่านี้มีประสบการณ์มาก รุ่นฐาน 8 รุ่นกุมารคู่ (สร้างน้อย) ส่วนรุ่นจิ๋วผงกระดูกล้วน รุ่นนี้ใครมีไว้ต้องเก็บเพราะปัจจุบันหวงแหนกันมาก รุ่นมูลนิธิฯปี 47 ส่วนกุมารพกพารุ่นพิพิธภัณฑ์ปี47 เทพนิมิตรปี49 เฮงเฮงปี51 และฐาน95 เป็นต้น

กุมารทองรุ่นฐานเลขเก้า –เทพนิมิต ปี 2548-2549 (นิยมมาก)
...ในวันวิสาขบูชา พ.ศ 2548-2549 ทำพิธีปลุกเสก ในศาลากตัญญูหลวงพ่อเต๋ เมื่อได้เรียงกุมารทองไว้บนโต๊ะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในขณะหลวงปู่แย้ม ท่านกำลังนั่งอธิฐานจิตปลุกเสกกุมารทองอยู่ ก็เกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้น! สำหรับคนที่อยู่ในพิธีปลุกเสก ก็จะทราบกันดี คือ เห็นมีแสงไฟพุ่งออกมาจากโลงที่บรรจุสังขารของหลวงพ่อเต๋ คงทอง ซึ่งบางท่าน ก็ถ่ายรูปเก็บไว้ เห็นเป็นดวงแสง วนรอบกุมารทองในพิธี อย่างชัดเจนจึงเป็นที่โจษจันกันว่า หลวงพ่อเต๋ คงทอง ท่านเมตตามาร่วมปลุกเสกด้วย ฯ
...หลังจากการสร้างกุมารรุ่นพิพิธภัณฑ์และจำหน่ายหมดลงอย่างรวดเร็ว และยังเป็นที่ต้องการของลูกศิษย์ ทางคณะกรรมการจึงดำหริที่จะจัดสร้างกุมารขึ้นอีกรุ่นเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของลูกศิษย์ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ เดิมทีกำหนดจะสร้าง พิมพ์ใหญ่ 700 องค พิมพ์กลาง 700 องค์ พิมพ์เล็ก 1,000 องค์ และกำหนดที่จะสร้างให้ทันพิธีไหว้ครู จึงได้เตรียมการจัดหามวลสารตามตำหรับโบราณ แต่การจัดหามวลสารแต่ละครั้งนั้นยากลำบากมาก จึงทำให้ไม่สามารถจัดสร้างให้ครบตามจำนวนที่กำหนดได้ ซึ่งสามารถปั้นกุมารทองได้ทันพิธีไหว้ครูเพียง 300 องค์ โดยประมาณ จากความเร่งรีบที่จะปั้นให้เสร็จทันพิธีไหว้ครูจึงทำให้กุมารชุดแรกที่จัดสร้างนั้น ไม่ได้ตกแต่ง และเก็บรายละเอียดให้สวยงาม รวมถึงไม่ได้ปั้มตราวัดอีกด้วย ทำได้เพียงแค่ตอกโค๊ด ย ย โดยคณะผู้จัดทำดำเนินการปั้นกันบริเวณพื้นที่โล่งด้านซ้ายของหุ่นขี้ผึ้งหลวงปู่เต๋ ภายในศาลาหลวงปู่เต๋ ที่เหลือปั้นต่อ หลังพิธีไหว้ครู ประกอบกับระยะนั้น ชื่อเสียงของกุมารทองของหลวงปู่แย้ม เริ่มเป็นที่กล่าวขวัญในเรื่องการทำมาค้าขายเป็นอย่างดี และไม่เพียงพอแก่ความต้องการของลูกศิษย์ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ทำให้ต้องเพิ่มจำนวนการสร้างขึ้นจากเดิม อย่างละ 500 องค์ เป็นจำนวนรวมทุกพิมพ์ทั้งสิ้น ประมาณ 4000 องค์ โดยแบ่งเป็น
-พิมพ์ใหญ่
...ลักษณะเป็นเด็กหน้าตาน่ารัก เกิดจากแม่พิมพ์ประกบกัน 4 ชิ้น ความสูงประมาณ 6นิ้ว หน้าตักประมาณ 3นิ้วนั่งขัดสมาธิอยู่บนฐานลักษณะเหมือนแท่นหิน ด้านหน้าปรากฏมีผ้าทิพย์ มีเม็ดไข่ปลาโดยรอบภายในมีเลข 9 ไทยอยู่หนึ่งตัว ข้างหลังบริเวณฐานชั้นล่างสุด มีคำว่าวัดสามง่าม ถือเป็นพิมพ์ฐานเลข 9 หลังจากผ่านพิธีไหว้ครูได้แก้ไขพิมพ์บางส่วน เพิ่มสีสันขององค์กุมารมากขึ้น อีกทั้งยังมีการตอกโค๊ด สามตัวที่ด้านหน้าภายในฐานผ้าทิพย์ และเพื่อป้องกันการปลอมแปลง ได้ปั้มตราวัดและชื่อหลวงปู่ไว้ใต้ฐานได้เปลี่ยนชื่อรุ่นเพื่อให้เป็นมงคลว่า “รุ่นเทพนิมิต” ซึ่งรุ่นนี้มีพิมพ์กรรมการ (หูยาว) ซึ่งให้บูชาพร้อมใบประกาศ ซึ่งขณะนั้นออกจำหน่ายในราคา 10,000 บาท ซึ่งถือว่าสูงมากในขณะนั้น

...กุมารทองรุ่นพิพิภัณฑ์ ขนาดพกพา สร้างปี2547 องค์แท้ๆที่ออกจากวัด ต้องเป็นบล๊อกที่ชัดเจนคือลายลูกตา , ลายนิ้วมือ , ลายจูงกระเบน , ลายขาและเท้า ต้องชัดเจนทั้งหมดและที่สำคัญคือ บริเวรใต้ฐานจะมีรู รูนี้จะเป็นก้านธูปที่เวลาถอดกุมารทองออกจากพิมพ์ผู้สร้างต้องใช้ก้านธูปจิ้มลงไปในเนื้อดินใต้ฐานจึงเอากุมารทองออกจากพิมพ์ได้) และสีของกุมารทองต้องไม่เพี้ยน

(พระครูประยุตนวการ)...หลวงปู่แย้ม ฐานยุตโต ท่านเป็นศิษย์ (พระครูภาวนาสังวรคุณ)...หลวงพ่อเต๋ คงทอง รูปสุดท้ายสายวิชาแห่งวัดสามง่ามที่ยังอยู่ ส่วนปาฏิหาริย์ของหลวงปู่แย้ม นั้นมีมากมายหลายอย่างด้วยกัน อาทิเช่น เสกน้ำมนต์หมุน สัมผัสวัตถุมงคลปุ๊บก็รู้ทันทีว่าแท้หรือปลอม รู้วาระจิตคนที่มากราบ การเสกกุมารทอง และนางกวักให้มีชีวิต เสกวัตถุมงคลได้เหมือนมีชีวิต ส่วนการสร้างและเสกวัตถุมงคลนั้น หลวงปู่ก็สร้างตามแบบพระเกจิอาจารย์ยุคเก่าที่ไม่ผิดเพี้ยนและไม่ผิดแบบที่หลวงปู่ร่ำเรียนมา ส่วนเสกก็เสกแบบบินเดี่ยว วัตถุมงคลนั้นก็ประการณ์มากมาย ช่วยชีวิตคนมาแล้วนับไม่ถ้วน พุทธคุณ-อิทธิคุณ บุญฤทธิ์-อิทธิฤทธิ์ ก็มีครบเครื่อง ไม่ว่าเป็นด้านแคล้วคลาดคงกระพัน เสน่ห์เมตตามหานิยม โภคทรัพย์ โชคลาภ ค้าขาย ส่งเสริมความสำเร็จ เจริญก้าวหน้าของชีวิต เจ้านายรักใคร่เมตตาเอ็นดู... แต่เด่นมากที่สุดเมตตามหานิยม และโชคลาภ สมดั่งที่ลูกศิษย์ขนานนามว่า " พระอริยะแห่งเมตตาโชคลาภ "

" โอม พะนิ จิเจรุนิ พันธัง เอหิ มะมะ "...คาถาเรียก กุมารทอง
สมัยหลวงพ่อเต๋ คงทอง ท่านจึงเตือนและสั่งสอนลูกศิษย์ไว้ว่า...
“ผู้ที่จะเลี้ยงกุมารทอง อย่าพยายามเคลื่อนย้ายกุมารออกจากบ้านบ่อย ยกเว้นที่พกพาได้ เพราะจะทำให้ดวงวิญญาณหลุด หรือไม่ก็หลงไปตามสถานที่จนกู่ไม่กลับ ฤทธิ์เดชจะลดลงไม่จำเป็นต้องนำมาเยี่ยมให้ฉันเพราะของฉันดีอยู่แล้วถ้าจะอยากจะเสริมฤทธิ์กุมารทอง ให้บวงสรวงด้วยบายศรีปากชาม ศิษย์ฉันทุกคนต้องแนะนำญาติโยมตามนี้”

มาถึงสมัยหลวงปู่แย้ม ท่านก็แนะนำตามนี้...
“วัตถุมงคลของอาตมาจะใช้ได้ดีหรือไม่ดี จะขลังหรือไม่ขลัง ไม่ต้องไปดูที่ไหน ดูที่ตัวเราเอง ดูที่ตัวคนใช้ หากประพฤติสิ่งเลวๆ ของก็ไม่คุ้มครอง หากเราประพฤติดี วัตถุมงคลเหล่านั้นก็จะส่งผลให้ความคุ้มครอง สิ่งสำคัญคือหมั่นรักษาศีล ๕ เอาไว้..” “ตอนที่อาตมาเรียนกับหลวงพ่อเต๋ อาตมาไม่เคยเห็นหลวงพ่อท่านบอกกับใครเลยว่า เอาไปใช้แล้วจะดีอย่างไร ท่านบอกแต่ว่า...ใครอยากได้ก็มาเอาไป และเมื่อมีใครเอาไปใช้แล้วขอให้มีเมตตามีศีลห้า อย่าด่าพ่อล่อแม่ ถ้าละในสิ่งเหล่านี้ได้ของถึงจะขลัง...ท่านว่าทองคำจะไปอยู่ที่ไหนก็ยังเป็นทองคำ.....” “อาตมาจะปลุกเสกเป็นไตรมาส วัตถุมงคลน่ะปลุกเสกคนเดียวก็พอ ไม่จำเป็นต้องปลุกเสกหมู่หรอก เพราะของจะดีหรือไม่ดีสุดท้ายมันก็ต้องไปอยู่กับที่คนใช้นั่นเอง...”

มังกรเงิน-เงินมา-ทองมา-ร่ำรวย-เรียกทรัพย์
...กุมารทองทั้งหมด บูชาจากวัดตั้งแต่ปี 49-53 ทุกองค์ และรับจากมือหลวงปู่แย้ม จากที่ไม่เคยคิด ก็ได้รับมาเลี้ยงมาดูแลต่อจากน้องทั้งหมด อย่างที่ลงไว้...สุดหล่อประจำบ้าน น้องมังกรเงิน บูชาฐาน 9 พิมพ์ใหญ่ ยังมีน้องร่ำรวย พกพาฐาน 95 ดินดิบเคลือบแล็ค และอีก3หน่อ เทพนิมิต พิพิธภัณฑ์ ฐาน95 อิทธิฤทธิ์สมคำร่ำลือ มีของแท้ไว้บูชาไม่ผิดหวัง *** โชคลาภ*** นี่สุดยอดจริงๆคับ

...กุมารทองหลวงปู่แย้ม รุ่นฐานเลข๙ พิมพ์ใหญ่ สร้างปี2548-2549 องค์ทอง กางเกงแดง ฐานเขียว (นิยมมาก) องค์นี้ หลวงปู่แย้ม เมตตาเขียนยันต์เองหมดทั้งองค์ หายากมากที่หลวงปู่แย้มจะเขียนยันต์เองทั้งกองค์ เต็มไปด้วยพุทธคุณ 108 ประการ รับจากมือท่านพร้อมเจิมอีกครั้ง ครบเครื่องทั้งบุญฤทธิ์-อิทธิฤทธิ์ ประสบการณ์มากมาย ดูได้จากสร้อยคอทองคำพร้อมจี้ที่คอ "มังกรเงิน" ได้คับ

ยังไม่ส่ง ข้อมูลยืนยันตัวตน